แม้ทั่วโลกกำลังประสบปัญหาคนรุ่นใหม่ไม่อยากมีลูก
จนอัตราการเกิดน้อยลงเข้าขั้นวิกฤต
แต่อินไซท์ใหม่ ๆ พบว่าคนกลับเต็มใจทุ่มเทและใช้จ่ายไม่อั้นเพื่อสัตว์เลี้ยง ไม่ต่างจากครอบครัวที่มีลูก (มนุษย์)
จนเกิดเป็นคำว่า #ทาสหมา #ทาสแมว
จึงไม่น่าแปลกใจที่ตลาดธุรกิจเพื่อสัตว์เลี้ยงเติบโตปีละ 10%
และยังเติบโตต่อเนื่อง ถึงแม้จะเจอวิกฤตโควิด 19
รวม ๆ แล้ว ธุรกิจอาหารสัตว์ โรงพยาบาลสัตว์ และธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง มีมูลค่าราวๆ 35,000 ล้านบาท
กรณีศึกษาที่น่าสนใจ คือโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ
ที่เติบโตขึ้นจากรายได้ 382 ล้านบาทในปี 2556
สู่รายได้ 780 ล้านบาทในปี 2562
ไม่รวมการร่วมทุนกับโรงพยาบาลสัตว์อื่น
และการเปิดสาขาที่เวียดนามด้วย
✏️ 5 อย่างที่ทำให้คนทุ่มเทให้สัตว์เลี้ยงมากขึ้น
#1 สังคมสูงอายุ
จำนวนคนโสดและคนอายุยืนขึ้นมากขึ้น ต้องการสัตว์เลี้ยงมาเติมเต็ม สร้างความสมดุลให้ชีวิต
#2 กลุ่ม Dual Income, No Kids (D.I.N.K) เติบโต
คู่แต่งงานแล้วแต่ไม่ต้องการมีบุตรหรือมีแค่คนเดียวเยอะขึ้น ถ้าเลี้ยงสัตว์ก็จะทุ่มเทให้กับน้องๆ เหมือนเป็นลูก
#3 Pet Humanization
กลุ่มคนรักสัตว์นิยมเลี้ยงสัตว์เสมือนลูก เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว จึงเลือกสินค้าที่มีคุณภาพสูง
#4 Pet Health Care
หรือเทคโนโลยีทางการแพทย์เพื่อสัตว์เลี้ยงดีขึ้น
#5 Friendly Pet Community
มีสถานที่และที่พักอาศัยสำหรับสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้น
🐶🐱 รักน้องจริง อย่าทิ้งน้องนะ
แม้เทรนด์นี้จะเติบโตแค่ไหน
แต่ปัญหาหมา/แมว หรือสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ ถูกทอดทิ้งก็ยังมีให้เห็นบ่อย ๆ
ดังนั้นอย่าลืมว่า น้องหมา น้องแมว หรือสัตว์เลี้ยงอื่นๆ
แม้จะมีวัยเด็กที่ดูน่ารักปุ๊กปิ๊ก น่าเลี้ยงสุดๆ แต่เมื่อเราตัดสินใจเลี้ยงเขาแล้ว
แปลว่าเราควรรับผิดชอบชีวิตของเขาให้ดีที่สุดตั้งแต่วัยเด็กไปจนถึงวัยชรา
ก่อนจะตัดสินใจเลี้ยง เราต้องมั่นใจว่าจะมีเวลา
มีกำลังและต้องศึกษาทำความเข้าใจลักษณะนิสัย กับวิธีเลี้ยงพวกเขาอย่างดีด้วย
ที่มา:
- KBank SME Inspired VOL. 12 NO. 55 NOVEMBER 2018