คน 4 เมืองใหญ่กำลังบอกอะไรกับเรา?
.
เมื่อข้อมูล True Mobility Data เผยให้เห็นวิถีชีวิตของผู้คนจาก 4 เมืองใหญ่ ขอนแก่น เชียงใหม่ กรุงเทพฯ และสงขลา หัวเมืองใหญ่ประจำแต่ละภาค วิถีชีวิตของผู้คนในจังหวัดเป็นเช่นไร และข้อมูลเหล่านี้จะสามารถนำมายกระดับเมืองให้ดีขึ้นได้อย่างไร #Agenda มีคำตอบมาให้
.
ขอนแก่น – เมืองอุดมบึง ที่รอการยกระดับ
จากข้อมูลแสดงให้เห็นว่า ขอนแก่นเป็นจังหวัดที่อุดมไปด้วยบึงหลายแห่ง รวมทั้งยังได้มีการเข้ามาใช้ประโยชน์จากชุมชนโดยรอบอย่างต่อเนื่อง เช่น ออกกำลังกาย พักผ่อนหย่อนใจ หรือใช้เป็นสถานที่รวมตัวในการทำกิจกรรม โดยคนขอนแก่นเลือกที่จะไปบึงที่อยู่ใกล้บ้านตัวเองมากกว่าที่จะยอมเดินทางไปใช้สวนสาธารณะที่อยู่ไกลจากบ้าน แม้ว่าสวนสาธารณะนั้นจะดีแค่เพียงใดก็ตาม แต่ในทางกลับกันบึงที่ถูกพัฒนาพื้นที่โดยรอบให้ตอบโจทย์วิถีชีวิตของคนขอนแก่นนั้นกลับมีไม่มากเท่าที่ควร แถมบางแห่งที่มีการพัฒนาแล้วก็มีการปิดรั้วล้อมรอบทำให้เป็นอุปสรรคต่อการเข้าใช้มากยิ่งขึ้นไปอีก
.
ซึ่งจากข้อมูลตรงนี้ จึงอาจสามารถนำไปปรับใช้กับแผนยุทธศาสตร์ในการยกระดับเมืองขอนแก่นได้ในอนาคต โดยการยกระดับพื้นที่รอบบึงในจังหวัดขอนแก่นให้กลายเป็นพื้นที่สาธารณะมากยิ่งขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของผู้คนในขอนแก่น อีกทั้งบึงไหนที่มีการยกระดับพื้นที่โดยรอบแล้วก็อาจจัดให้มีมาตรการการรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนาแทนการวางรั้วล้อมรอบเสียแทน ซึ่งนอกจากจะทำให้ผู้คนในขอนแก่นได้เข้าถึงพื้นที่สาธารณะมากขึ้นแล้ว ยังจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนโดยรอบบึงได้อีกด้วย
.
เชียงใหม่ – เมืองวัดเยอะ แต่ขาดการเชื่อมโยง
เชียงใหม่คือหนึ่งในจังหวัดที่มีจำนวนวัดเยอะมากเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย ด้วยระยะห่างเพียงแค่ 100 เมตร ในเชียงใหม่อาจประกอบไปด้วยวัดถึง 3 แห่ง ทั้งในเขตเมืองหรือนอกเมืองเองก็ตาม ซึ่งนอกจากวัดจะเป็นพื้นที่สำหรับศาสนาเป็นแหล่งรวมของชุมชนแล้ว ที่เชียงใหม่วัดยังเป็นเสมือนสถานที่อันแสดงถึงวัฒนธรรมดั้งเดิมด้วยสถาปัตยกรรมและการออกแบบต่าง ๆ อีกด้วย ทำให้วัดในเชียงใหม่มีความโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร
.
จากข้อมูลแสดงให้เห็นว่า การเข้าวัดในเชียงใหม่ แทบจะเป็นวิถีชีวิตหนึ่งของจังหวัดไปเสียแล้ว ทั้งจากชุมชนใกล้เคียงไปจนถึงนักท่องเที่ยว ซึ่งถ้าหากในอนาคตสามารถเชื่อมวัดเหล่านี้เข้ากับพื้นที่เศรษฐกิจในจังหวัดได้ วัดจะกลายเป็นพื้นที่กลางในการเชื่อมวัฒนธรรม เศรษฐกิจ และชุมชน เข้ามาไว้ด้วยกัน และจะเป็นสิ่งสำคัญในการขับเคลื่อนวัฒนธรรมดั้งเดิมเข้าสู่พื้นที่เศรษฐกิจได้อีกด้วย
.
กรุงเทพฯ – เมืองชุมย่านเศรษฐกิจ แต่ขาดการผสานที่พอดี
เมืองหลวงที่เต็มไปด้วยย่านเศรษฐกิจทั้ง สาทร สีลม สุขุมวิท และอีกมากมาย แต่พื้นที่เหล่านั้นล้วนถูกแยกเป็นต่างหากไม่ได้เชื่อมต่อถึงกันแต่อย่างใด ทาง กทมฯ จึงได้ริเริ่มโครงการ ‘เส้นเลือดฝอย’ ในการสร้างพื้นที่เชื่อมย่านเศรษฐกิจเหล่านั้นเข้าด้วยกัน
.
อย่างไรก็ตามพื้นที่เส้นเลือดฝอยเหล่านั้น ยังคงเผชิญปัญหาซึ่งเหล่าคนเมืองทั้งหลายต้องพบเจอ หนึ่งในปัญหาที่ถูกร้องเรียนเข้ามามากที่สุดคึอ ปัญหาทางเท้า ตามมาด้วย ปัญหาความเปลี่ยว ปัญหาความมืด และปัญหามลพิษ
.
ปัญหาเหล่านี้เองทำให้พื้นที่เส้นเลือดฝอยเหล่านี้ไม่ได้แสดงศักยภาพเท่าที่ควร ในการทำหน้าที่เป็นพื้นที่ที่เชื่อมย่านเศรษฐกิจเข้าด้วยกัน พร้อมทั้งเป็นพื้นที่ที่ตอบโจทย์คนในหลากหลายมิติทั้งการกิน การเที่ยว หรือการพักผ่อน และเป็นพื้นที่ที่ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตให้คนในบริเวณนั้นได้
.
ด้วยข้อมูลตรงนี้เองจึงนำไปสู่การปรับปรุงและยกระดับพื้นที่เส้นเลือดฝอยให้ดีมากยิ่งขึ้น เริ่มด้วยโครงการ ‘เดินได้เดินดี’ ของทาง กทมฯ ในขณะนี้ ที่เข้ามาแก้ปัญหา ยกระดับมาตรฐานของทางเท้า ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาหลักของพื้นที่เส้นเลือดฝอย แต่อย่างไรตามจากข้อมูลยังแสดงให้เห็นอีกว่า พื้นที่เส้นเลือดฝอยสามารถแผ่ขยายเข้าไปในตรอก ซอย เล็ก ๆ ได้เช่นกัน ไม่จำเป็นที่จะต้องจำกัดอยู่เพียงแค่พื้นที่ที่ติดกับถนนเส้นหลัก
.
สงขลา – เมืองการศึกษา แต่ขาดแรงงานรุ่นใหม่
ใครจะเชื่อว่าเมืองที่เต็มไปด้วยนักศึกษาอย่างสงขลา จะเป็นหนึ่งในเมืองที่มีจำนวนของแรงงานรุ่นใหม่น้อยสวนทางกับปริมาณของนักศึกษา จากข้อมูลแสดงให้เห็นว่า เมื่อเหล่านักศึกษาจากเมืองสงขลาเรียนจบต่างก็แยกย้ายกันออกไปจากเมืองเพื่อไปหางานทำในจังหวัดอื่น ทั้งกรุงเทพฯ และหาดใหญ่ ซึ่งสิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงปัญหาที่ว่า ตำแหน่งงานในจังหวัดอาจไม่ตอบโจทย์ หรือมีความท้าทายไม่มากพอที่จะสามารถดึงให้เหล่า First Jobber ลงหลักปักฐานทำงานอยู่ที่จังหวัดสงขลาได้
.
อย่างไรก็ตาม ‘สงขลา’ ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจาก ย่านเมืองเก่าและย่านสร้างสรรค์ อันมีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ยังคงไหลเวียนอยู่อย่างเข้มข้น ซึ่งถ้าหากในอนาคตสงขลาสามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ตรงนี้ให้เชื่อมโยงกับตำแหน่งงานต่าง ๆ มากขึ้นได้ อาจจะเป็นอีกจุดหนึ่งที่สามารถดึงเหล่าคนรุ่นใหม่ให้สนใจทำงานอยู่ในเมืองสงขลาต่อไปก็เป็นได้ ซึ่งนอกจากจะช่วยแก้ปัญหาให้สงขลาแล้ว ยังทำให้จังหวัดอื่น ๆ ที่ประสบปัญหาเหล่านี้อยู่สามารถนำไอเดียไปต่อยอดได้อีกด้วย
.
Source: จากการวิเคราะห์ข้อมูลการใช้โทรศัพท์มือถือแบบไม่ระบุตัวตน (True Mobility Data) ในโครงการ Dynamic Cities via Mobility Data หลากชีวิตในเมืองที่โลดแล่น
.
Link สำหรับโปรเจกต์ Dynamic Cities via Mobility Data: https://www.true.th/blog/data-playground/dynamic-cities/
.
#TrueMobilityData
