อยากมีเงิน “ล้านแรก” ในชีวิต
อยากมีเงิน “10 ล้าน”
ไว้ใช้ยามเกษียณ
หลายคนมองว่า ‘2 ความอยาก’ นี้คงไม่มีวันเป็นจริง เพราะทุกวันนี้ ยังเดือนชนเดือน เงินเข้าสิ้นเดือน ต้นเดือนก็ออกเกือบหมดแล้ว
นี่เป็นปัญหาของคนไทยส่วนใหญ่ซึ่งยังขาดความรู้ในการ ‘วางแผนการเงิน’
ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี? ปัญหานี้แก้ได้! ด้วยการเริ่ม “วางแผนการเงิน” เติมความรู้การลงทุนได้ตั้งแต่วันนี้ที่ www.setinvestnow.com มีความรู้และเครื่องมือทางการเงินสำหรับคนไทยทุกวัยให้เรียน ให้ใช้ฟรีเพียบ ตอบทุกโจทย์การลงทุน
โดย #SETSource
อยากมีเงินล้านแรกในชีวิต
อยากมีเงิน 10 ล้านไว้ใช้ยามเกษียณ
หลายคนมองว่า ‘2 ความอยาก’ นี้คงไม่มีวันเป็นจริง
เพราะทุกวันนี้ยังเดือนชนเดือน
เงินเข้าสิ้นเดือน ต้นเดือนก็ออกเกือบหมดแล้ว
นี่เป็นปัญหาของคนไทยส่วนใหญ่ซึ่งยังขาดความรู้ในการ ‘วางแผนการลงทุน’
แล้วถ้าอยากมีความรู้เรื่องนี้ควรจะเริ่มต้นอย่างไรดี?
สิ่งสำคัญอย่างแรกเลยก็คือเช็คตัวเอง ว่า
1. มีพฤติกรรมใช้จ่ายแบบไหน
รู้จัก พฤติกรรมใช้จ่าย ของตัวเราเองได้ จากการ บันทึกรายได้-ค่าใช้จ่าย
ยิ่งตอนนี้มี Happy Money Aplication แอปที่ช่วยให้เราบันทึกรายได้-ค่าใช้จ่ายตามหมวดหมู่
การบันทึกเป็นประจำ จะทำให้เห็นว่า เงินของเรา “หมดไปกับค่าใช้จ่ายหมวดหมู่ไหนมากที่สุด”
เป็นค่าใช้จ่ายจำเป็น ลดไม่ได้ มากแค่ไหน และจะปรับลดค่าใช้จ่ายอะไรได้บ้าง
ถ้าเราปรับลดค่าใช้จ่ายไม่จำเป็นลงได้ เท่ากับว่าเราก็จะแบ่งเงินมาเก็บตามเป้าหมายในแผนการเงินได้มากขึ้นด้วย
2. มีภาระอะไรบ้าง
3. เป้าหมายในการเก็บเงินและลงทุน
สำหรับข้อ 2. และ 3. มักจะเกี่ยวข้องกับ ‘ช่วงวัย’ ของเรา
เพราะใน ‘ช่วงวัย’ ที่แตกต่างกันส่วนใหญ่แล้วจะส่งผลต่อปัจจัยอื่น ๆ ด้วย
คือ เป้าหมายในการเก็บเงิน ระยะเวลาลงทุน ลักษณะรายได้รายจ่าย และความเสี่ยงที่ยอมรับได้
มาดูกันว่าแต่ละช่วงวัยเหมาะกับแผนการลงทุนแบบไหนบ้าง
First Jobber/วัยทำงาน
อายุ 20-30 ปี
เมื่อเข้าสู่วัยทำงาน หลายคนจะเริ่มมีรายได้จากเงินเดือน และรายได้เสริมอื่น ๆ
เป็นโอกาสที่ดีที่เราจะวางแผนการเงินไว้เลย
ถ้าเราแบ่งรายได้เป็นสัดส่วน ว่าส่วนไหนจะใช้จ่ายอย่างไร ลงทุนเท่าไหร่ เก็บเท่าไหร่
นอกจากจะช่วยให้ถึงเป้าหมายการเงินได้เร็วขึ้น ไม่ว่าจะทำงานเพื่อเก็บเงินไปเรียนต่อ อยากซื้อรถ หรืออยากเก็บเงินก้อนไว้ลงทุน
การวางแผนการเงินตั้งแต่เนิ่น ๆ ยังช่วยยับยั้งใจเราให้ไม่เผลอรูดบัตรเครดิตเพลิน จนก่อหนี้เกินตัว ซึ่งเป็นปัญหาที่พบมากในคนรุ่นใหม่ด้วย
และส่วนใหญ่ วัยทำงานเริ่มต้นกลุ่ม First Jobber จะยังไม่มีภาระรับผิดชอบมากนัก ถ้าต้องการลงทุนก็ยังสามารถเลือกการลงทุนความเสี่ยงสูงในสัดส่วนที่สูงได้ เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่มากขึ้น
สัดส่วนการลงทุนที่สอดคล้องกับเป้าหมายและวัย
10% – การลงทุนที่ความเสี่ยงต่ำ เช่น ฝากธนาคาร ตราสารหนี้ พันธบัตรรัฐบาล กองทุนรวมตลาดเงิน
20% – ความเสี่ยงปานกลาง เช่น กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ตราสารหนี้เอกชน กองทุนรวมผสม กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ทรัสต์
70% – ความเสี่ยงสูง เช่น หุ้น/อนุพันธ์ ทองคำ น้ำมัน กองทุนรวมหุ้น
วัยทำงานหลายคน พลาดความสุขวัยเกษียณ เพราะเมิน ‘กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ’
‘กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ’ ช่วยให้เรามีเงินสะสมไว้ใช้ตอนเกษียณอายุได้ แต่วัยทำงานหลายคนมองข้ามไป เพราะคิดว่าเก็บเงินเองสภาพคล่องดีกว่า (ถอนเมื่อไหร่ก็ได้) หรือลงทุนเองได้ดอกเบี้ยมากกว่า
แต่เราต้องไม่ลืมว่า ‘กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ’ นั้น บริษัทฯ ช่วยสมทบทุนให้ด้วย จนในที่สุดเป็นเงินก้อนที่เราพึ่งพายามเกษียณได้
ลองศึกษา เทคนิคเลือกนโยบายกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้เหมาะสมลงตัว ได้ที่นี่
วัยสร้างครอบครัว
อายุ 31- 45 ปี
วัยนี้เป็นวัยที่ทำงานมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว หน้าที่การงานเริ่มมั่นคง
อย่างไรก็ตาม ถึงวัยนี้จะมีรายได้ที่สูงขึ้น แต่ก็อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นด้วย จากหนี้สินระยะยาว เช่น บ้าน รถยนต์ เป็นต้น หรือบางคนมีแผนสร้างครอบครัว อาจต้องวางแผนค่าใช้จ่ายสำหรับลูกที่เพิ่มขึ้นด้วย
วัยสร้างครอบครัว จึงต้องวางแผนบริหารจัดสรรเงินให้ดี คุมค่าใช้จ่าย และออมเงินสำหรับเป็นเงินเก็บฉุกเฉิน สัดส่วนการลงทุนความเสี่ยงสูงก็ไม่ควรจะเยอะเกินไปด้วยเช่นกัน
สัดส่วนการลงทุนที่สอดคล้องกับเป้าหมายและวัย
20% – การลงทุนที่ความเสี่ยงต่ำ เช่น ฝากธนาคาร ตราสารหนี้ พันธบัตรรัฐบาล กองทุนรวมตลาดเงิน
30% – ความเสี่ยงปานกลาง เช่น กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ตราสารหนี้เอกชน กองทุนรวมผสม กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ทรัสต์
50% – ความเสี่ยงสูง เช่น หุ้น/อนุพันธ์ ทองคำ น้ำมัน กองทุนรวมหุ้น
วัยมั่นคง
อายุ 46-60 ปี
วัยมั่นคงอยู่ในโค้งสุดท้ายก่อนจะเข้าสู่วัยเกษียณ ถึงวัยนี้ เป็นวัยที่สร้างความมั่นคงทางการเงินจนพร้อมที่สุด แต่เรายังหารายได้เพิ่มต่ออีกไม่กี่ปี เราจึงต้องวางแผนลงทุนให้เงินเก็บงอกเงยอย่างมีประสิทธิภาพ มีสัดส่วนการลงทุนความเสี่ยงต่ำและปานกลางมากที่สุด และความเสี่ยงต่ำ
สัดส่วนการลงทุนที่สอดคล้องกับเป้าหมายและวัย
30% – การลงทุนที่ความเสี่ยงต่ำ เช่น ฝากธนาคาร ตราสารหนี้ พันธบัตรรัฐบาล กองทุนรวมตลาดเงิน
50% – ความเสี่ยงปานกลาง เช่น กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ตราสารหนี้เอกชน กองทุนรวมผสม กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ทรัสต์
20% – ความเสี่ยงสูง เช่น หุ้น/อนุพันธ์ ทองคำ น้ำมัน กองทุนรวมหุ้น
วัยเก๋า
อายุ 60 ปีขึ้นไป
เมื่อถึงวัยเก๋า ถ้าใครเกษียณแล้วนอกจากเป้าหมายการลงทุน จะเป็นเงินที่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต และค่ารักษาพยาบาลที่อาจเพิ่มขึ้นตามปัญหาสุขภาพ รวมถึงเตรียมส่งมอบความมั่งคั่งให้กับลูกหลาน
สัดส่วนแผนการลงทุน ก็ต้องเน้นที่การลงทุนความเสี่ยงต่ำ มุ่งเน้นการเติบโตของเงิน และไม่ต้องการสูญเสียเงินต้นที่ลงทุนไป
สัดส่วนการลงทุนที่สอดคล้องกับเป้าหมายและวัย
50% – การลงทุนที่ความเสี่ยงต่ำ เช่น ฝากธนาคาร ตราสารหนี้ พันธบัตรรัฐบาล กองทุนรวมตลาดเงิน
40% – ความเสี่ยงปานกลาง เช่น กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ตราสารหนี้เอกชน กองทุนรวมผสม กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ทรัสต์
10% – ความเสี่ยงสูง เช่น หุ้น/อนุพันธ์ ทองคำ น้ำมัน กองทุนรวมหุ้น
จะอยู่วัยไหน ถ้า ‘วางแผนการเงิน’ เป็นแล้ว ไม่ว่าจะเงินล้านแรกในชีวิต หรือเงิน 10 ล้านไว้ใช้ยามเกษียณ ก็ไม่ใช่สิ่งที่เกินเอื้อมแน่นอน
เรื่องเงินเรื่องใหญ่ แต่ไม่ใช่เรื่องยาก
แค่เริ่มศึกษาการ ‘วางแผนการเงิน’ และเติมความรู้การลงทุนได้ตั้งแต่วันนี้ใน Happy Money #เงินทองต้องวางแผน ที่มีความรู้ทางการเงินให้เรียนฟรีเพียบ และมีพี่เลี้ยงการเงินช่วยดูแลให้คำปรึกษาอีกด้วย
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.set.or.th/happymoney