ตำแหน่งจะอยู่ไม่นาน…แต่ตำนานจะอยู่ตลอดไป!
ย้อนรอย ตำนานนักกีฬา ยอดมนุษย์ในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก
มหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติอย่าง #Olympics
เสมือนหน้ากระดาษที่เปิดโอกาสให้สุดยอดนักกีฬาได้มาขีดเขียนประวัติศาสตร์ความสำเร็จ 🥇
แม้เวลาผ่านไป ชื่อของนักกีฬาหลายคนก็ยังคงเป็นตำนานให้โลกกล่าวขานอยู่จนปัจจุบัน
#AGENDA ชวนมาย้อนดูกับตำนานนักกีฬาที่สร้างตำนานไว้ในโอลิมปิกกัน
1.ไมเคิล เฟลป์ส
โคตรฉลามเจ้าสระ 🏊♂
นักกีฬาว่ายน้ำชาวอเมริกัน ซึ่งเติบโตมาในครอบครัวที่พ่อแม่แยกทางกัน มีพี่สาวเป็นนักว่ายน้ำ ทว่าเธอล้มเหลวในการคัดตัวไปแข่งขันโอลิมปิก ความล้มเหลวของครอบครัวจึงเป็นแรงผลักดันให้เขามุ่งมั่นจะประสบความสำเร็จให้ได้
เนื่องจาก ไมเคิล เฟลป์ส มีอาการโรคสมาธิสั้น เขาจึงเลือกเล่นกีฬาว่ายน้ำเพื่อช่วยรักษาอาการป่วย จนเริ่มฉายแววฉลามเจ้าสระ ตั้งแต่อายุเพียง 10 ขวบ สามารถชนะคู่แข่งรุ่นเดียวกัน กระทั่งได้มีโอกาสไปสู่เวทีโลกและโอลิมปิก
ไมเคิล เฟลป์ส สร้างตำนานเป็นนักว่ายน้ำที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด สามารถคว้าเหรียญโอลิมปิกได้มากที่สุดในโลก 28 เหรียญ เป็นเหรียญทองมากที่สุดถึง 23 เหรียญ
จากการลงแข่งขันว่ายโอลิมปิก 4 สมัย ได้แก่ เอเธนส์ 2004 ปักกิ่ง 2008, ลอนดอน 2012 และริโอ 2016 และเป็นเจ้าของสถิติคว้าเหรียญทองมากที่สุด 8 เหรียญจากการลงแข่งเพียง 1 ครั้งที่ปักกิ่ง 2008
——-
2.ยูเซน โบลต์
เทพเจ้าลมกรด 🏃💨
ยูเซน โบลต์ ที่เกิดและเติบโตที่เมืองเชอร์วูด คอนเทนต์ ประเทศจาเมกา เขามีอาการไฮเปอร์แอ็กทีพ ทำให้มีความรู้สึกตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา การเล่นกีฬาคล้ายกับเป็นการใช้อาการไฮเปอร์ให้เกิดประโยชน์ เข้โดย ยูเซน โบลต์มีช่วงวัยเด็กในการเล่นคริกเก็ตและฟุตบอล
แต่พรสวรรค์ความสามารถด้านการวิ่งได้ฉายแสง กระทั่งโค้ชคริกเก็ตแนะนำให้เขาสู่สังเวียนลู่ จนกลายเป็นนักวิ่งที่ไม่มีใครทำลายสถิติความเร็วจากจุดเริ่มต้นถึงเส้นชัยได้ ทั้งในการแข่งขันวิ่งรายการระดับโลกและโอลิมปิก
ความสำเร็จของยูเซน โบลต์ ในโอลิมปิก คือ การคว้าเหรียญทองจากกีฬาวิ่งแข่ง 100 เมตรและ 200 เมตร 3 สมัยติดต่อกัน
เป็นคนเดียวในประวัติศาสตร์ ที่ ปักกิ่ง 2008, ลอนดอน 2012 และริโอ 2016 และคว้าเหรียญทองวิ่งผลัด 4 × 100 อีก 2 รายการ รวม 8 เหรียญทอง เป็นเจ้าของสถิติโลกที่เร็วที่สุด
——-
3. วีนัส วิลเลี่ยม
เจ้าแม่นักหวดโอลิมปิก 🎾🥎
วีนัส วิลเลี่ยม เป็นนักเทนนิสหญิงชาวอเมริกัน เกิดที่เมืองลินวู้ด แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เติบโตบนเส้นทางนักกีฬามาพร้อมกับน้องสาวอย่างเซเรน่า วิลเลี่ยม ก้าวเข้าสู่เส้นทางของนักเทนนิสอาชีพในปี 1994 ส่วนใหญ่เธอมักจะถูกมองว่าเป็นรองน้องสาว
เธอจึงต้องใช้ความพยายามอย่างยิ่งเพื่อสร้างความสำเร็จของตัวเองให้ออกจากเงาของเซเรน่าให้ได้
อย่างไรก็ดี วีนัส วิลเลี่ยม คือ นักเทนนิสที่ประสบความสำเร็จที่สุดในมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ สามารถคว้าเหรียญทองในประเภทหญิงเดี่ยว 2 สมัย และเหรียญเงินในประเภทคู่ผสม 1 สมัย
ส่วนประเภทหญิงคู่ (ร่วมกับน้องสาวเซเรน่า วิลเลียม) คว้า 3 เหรียญทองที่ซิดนีย์ 2000, ปักกิ่ง 2008 และลอนดอน 2012 รวมทั้งหมด 5 เหรียญ ถือเป็นตำนานที่ยังไม่มีใครก้าวข้ามได้
——-
4. ลาริซ่า ลาตีนิน่า
ราชินียิมนาสติก 🤸
ลาตีนิน่า เกิดในเคอร์ซอน ประเทศยูเครน เริ่มต้นเธอมีความฝันอยากจะเป็นนักเต้นบัลเลต์ แต่เมื่ออายุได้ 9 ขวบ ต้องสูญเสียพ่อจากยุทธการสตาลินการ์ด ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
ส่งผลให้แม่ต้องอย่างหนักเพื่อเลี้ยงดูครอบครัวและหาเงินจ่ายค่าเรียนบัลเลต์ กระทั่งโรงเรียนสอนบัลเลต์ของเธอปิดกิจการลงไป เธอจึงหันเหชีวิตไปสู่การเล่นยิมนาสติก
พร้อมสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวในการแสดงยิมนาสติกของเธอที่มักมีท่วงท่าของบัลเลต์สอดแทรกลงไปให้เห็น
โอลิมปิก เมลเบิร์น 1956 เธอในฐานะนักกีฬาจากสหภาพโซเวียต คว้า 6 เหรียญ ได้แก่ 4 เหรียญทองจากประเภททีม, บุคคลรวมอุปกรณ์, ม้ากระโดด และฟลอร์เอ็กซ์เซอร์ไซส์ และ 1 เหรียญเงินจากบาร์ต่างระดับ และ 1 เหรียญทองแดงจากประเภททีมอุปกรณ์เอ็กซ์เซอร์ไซส์
กรุงโรม 1960 ลาตีนิน่ากลับมาป้องกันแชมป์ได้ 3 จาก 4 รายการ และเก็บอีก 2 เหรียญเงินและ 1 เหรียญทองแดง
โอลิมปิกครั้งสุดท้ายที่กรุงโตเกียว 1964 ซึ่งทิ้งทวนด้วยการคว้า 2 เหรียญทองจากประเภททีม และฟลอร์เอ็กซ์เซอร์ไซส์ 2 เหรียญเงินจากบุคลรวมอุปกรณ์และม้ากระโดด บวกกับ 2 เหรียญทองแดงจากบาร์ต่างระดับและคานทรงตัว
ลาตีนิน่าเป็นเจ้าของ 18 เหรียญโอลิมปิก กลายเป็นนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในขณะนั้น ก่อนจะถูกทำลายลงในลอนดอน 2012 ด้วยความสามารถการว่ายน้ำของ ไมเคิล เฟลป์ส ซึ่งเธอก็อยู่ที่สระว่ายน้ำแข่งขันในวันนั้นด้วย
——-
5. เอียน มิลลาร์
ยอดกัปตันแคนาดา 🏇
เอียน เกิดที่แฮลิแฟกซ์ โนวาสโกเชีย เขาเปิดกิจการ “Millar Brooke Farm” ใกล้เมืองเพิร์ธ รัฐออนแทรีโอพร้อมกับลูกของเขา โจนาทอน มิลลาร์และเอมี่ มิลลาร์ โดยตลอดชีวิตการเป็นนักกีฬาขี่ม้า
ม้าที่เปรียบเสมือนเพื่อนคู่ใจมีอยู่หลายตัว แต่ที่เป็นที่รู้จัก ได้แก่ ‘บิ๊กเบน’ (ม้าที่มิลลาร์ใช้แข่งในโอลิมปิกปี 1984-1992) และ ‘อินสไตล์’ ม้าที่พาเขาคว้าเหรียญเงินแรกในโอลิมปิกปี 2008
ความสามารถทางด้านการขี่มาของเขาทั้งเดี่ยวและทีม ยังคว้ารางวัลในทัวร์นามเมนต์อื่นมามากมาย จนได้รับการเสนอชื่อให้เป็นหนึ่งในนักกีฬาทรงคุณค่าที่จะได้จารึกในหอเกียรติยศนักกีฬาแห่งแคนาดา Sports Hall of Fame Class ในปี 1996
ถึงแม้ความสำเร็จในโอลิมปิกของเขาจะมีเพียง 1 เหรียญเงินจาก ปักกิ่ง 2008 แต่ เอียน มิลลาร์ เป็นผู้ครองสถิตินักกีฬาที่มีส่วนร่วมในโอลิมปิกยาวนานมาที่สุด 10 สมัย (40 ปี) คือ ตั้งแต่ปี 1972 ที่นครมิวนิค ไปจนถึงปี 2012 ที่กรุงลอนดอน
——-
เป็นตัวอย่างที่ดีแก่นักกีฬารุ่นหลังด้านการรักษาสภาพร่างกาย ความรักในการเล่นกีฬา และความกระหายต่อชัยชนะที่เวลาไม่อาจทำให้เลือนลางจางลงไป
🏆 เหล่าตำนานนักกีฬาโอลิมปิกยังมีอีกมากมายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
และยังคงรอคอยตำนานบทใหม่จากคนรุ่นใหม่ที่จะถูกเขียนขึ้นต่อไปในอนาคต 🏆
ที่มา: StadiumTH, Olympic.com