เปิดเคล็ดลับคัดคนฉบับ divana เครือสปามูลค่าหลายร้อยล้าน
ในวันที่รายได้หายไป 95% แต่ทุกคนยังมีสปิริต
ลุกขึ้นปั้นธุรกิจใหม่จนประสบความสำเร็จ
divana ทำได้อย่างไร?
#AGENDAINSIGHT ชวนคนรุ่นใหม่มารู้จักคุณตี๋-พัฒนพงศ์ รานุรักษ์
หนึ่งในผู้ก่อตั้งเครือ divana ที่มีทั้งธุรกิจสปา สตาร์ทอัปนวดเดลิเวอรี่ คลินิกความงาม ร้านอาหารและคาเฟ่ อาหารเสริม
ว่าคุณตี๋มีวิธีคิดและมุมมองอย่างไร กับการทำธุรกิจในช่วงเวลาที่ไม่มีความแน่นอน
พร้อมเจาะลึกวิธีคัดคนเข้าองค์กร เพื่อปั้น Talents รุ่นใหม่ ให้ตอบรับเอเนอจี้ในแบบฉบับ divana ได้
สปา divana กับวิกฤติโควิด 19
ลูกค้าหลักเรา 70-80% คือคนต่างชาติ เท่ากับว่ารายได้แทบจะหายวับเลย หายไป 95% ได้ หนักเหมือนกัน แต่ไม่หยุดนะ นี่เป็นเวลาที่เราเอามาสร้างอะไรใหม่ ๆ หลายอย่าง หาโอกาสโตให้อะไรหลายอย่างแทน
ตอนนี้นอกจากสปา เรามีคลินิก มีร้านอาหาร มีคาเฟ่ มีนวดเดลิเวอรี่ มีอาหารเสริม อะไรที่มันเป็น Wellness Innovation มันคือเราอยู่แล้ว และเราจะไม่หยุดนิ่งที่จะตอบโจทย์สุขภาพดีทั้งกายและใจให้ทุกคนไปเรื่อย ๆ
มองว่าเราผ่านพ้นวิกฤติโควิด 19 มาได้อย่างไร ทั้งๆ ที่วิกฤตินี้ทำรายได้ธุรกิจหลักหายไป 95%
ผมใช้หลัก ททท ทำทันที คิดอะไรได้แล้วต้องทำ
และอีกหลักนึงก็คือ Trial & Error ทดลอง ล้มเหลว ลองใหม่
ถ้าเราอยู่กับที่ ผลลัพธ์มันคือเท่าเดิม แต่ถ้าเราไม่อยู่เฉย เราลอง เราทำ เราลุย ผลลัพธ์มันอาจจะลบสักห้าอย่างสิบอย่าง แต่เป็นบวกอย่างนึง มันก็ดีละ
อย่าง dii supplement เนี่ย ไปได้ดีมากตอนนี้ เพราะเราตอบโจทย์ลูกค้า timing ได้ แก้ pain ได้
ลูกค้าไปหาหมอไม่ได้ เรามี dii care ถ่ายหน้าส่งมา หมอช่วยดูให้ ส่งสิ่งที่เหมาะกับการดูแลเค้าให้
กลายเป็นว่า วิกฤตินี้ทำให้เราปรับตัวมาดูแลลูกค้าได้แบบ 24 ชั่วโมงเลย
พี่ตี๋ Energy เยอะมาก ๆ แบบนี้เวลาทำงาน คนที่จะทำงานกับพี่ได้ต้องเป็นแบบไหน มีวิธีคัดเลือกคนยังไงบ้าง?
เรซูเม่เข้ามาเป็นพัน ๆ ผมขอให้ HR เลือกส่งมาสัมภาษณ์เลย อยากคุย มันต้องคุยถึงจะได้รู้จักกัน แล้วคนส่วนใหญ่ที่ผมเลือกนะ ถ้ามีลักษณะ 5-6 อย่างนี้พี่เอาเลย คือ
1. เลือกคนประหลาด
เราชอบหาคนที่เค้ามีมุมมองแปลกใหม่ ทัศนคติแตกต่าง เป็นตัวของตัวเอง
บางคนมาในรูปแบบ เรียนไม่ตรงสาย แต่อยากทำงานนี้อ่ะ อยากลองอ่ะ แล้วเอาความรู้ที่เรียนมามา Mix กับงานได้ เฮ้ยเจ๋ง แบบนี้เอา
2. เติมเต็มความหลากหลาย
ผมเชื่อว่าสังคมที่ดี คือสังคมที่มีความหลากหลาย
ยิ่งถ้าในองค์กร เรามีความคิด-ความสามารถหลากหลาย มาเติมเต็มกันในองค์กรได้ การทำงานมันจะยิ่งสนุก เปิดกว้าง และได้มุมมองใหม่ ๆ เยอะเลย
เพราะฉะนั้นเราจะไม่ดูที่คนแพทเทิร์นเดิมอย่างเดียว อยากให้การทำงานที่นี่หลากหลายด้วย อย่างตอนนี้ ทีมที่ประชุมกันอยู่ มีทั้งจบวิศวะ จบแพทย์แผนไทย คนหัวดิจิทัล หลากหลายมาก
3. เรียนรู้เร็วกว่าสายฟ้า
สิ่งสำคัญที่ผมมองว่า เป็น Talent ของคนรุ่นใหม่เลย คือความสามารถในการ Multi-tasking คือเรียนรู้ได้เร็ว พัฒนาทักษะตลอดเวลา และสามารถเข้าใจ ประยุกต์ความรู้หลายอย่างเข้าด้วยกันได้
เพราะฉะนั้นใครที่ความสามารถพิเศษหลายแบบ ผมจะชอบมาก อยู่ด้วยแล้วสนุก น่าสนใจ เพราะผมมองว่าคนแบบนี้เป็นคนที่ชอบเรียนรู้ พอรู้หลายอย่างแล้วมันคุยได้หลายเรื่องด้วย ทำให้มุมมองงานกับไอเดียมันไม่แคบเกิน
4. Spirit นักสู้ ล้มได้ ลุกไว
กล้าคิด กล้าทำ ล้มได้ ลุกให้ได้ และต้องลุกให้เร็ว
อันนี้เป็นสิ่งที่คนน่าจะเห็นชัดว่าผมมี divana มี ทุกคนในทีมที่ทุกงานด้วยกันมี
คือคิดแล้วต้องกล้าทำ ทำแล้วล้ม เราคุยกัน ปรับตัว ปรับวิธี ลองใหม่ ทำใหม่ นี่คือ Spirit นักสู้ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากที่เราต้องการ
5. มี Energy ไปทางเดียวกัน
มีแรงจูงใจอยากทำงานร่วมกัน ทั้งผู้นำและคนในองค์กร
สิ่งสำคัญที่ทุกคนใน divana must have เลยก็คือ เรามีเป้าเดียวกัน ก็คือเป้าที่อยากจะสร้าง Wellness Innovation ใหม่ๆ มาตอบโจทย์ลูกค้า แบบจริงใจ ใส่ใจ และเข้าใจ
นี่คือ Energy ที่พี่มองหาในตัวของเด็กรุ่นใหม่
เพราะให้ทำธุรกิจแบบกำไรเยอะแต่ไร้หัวใจ คนรุ่นใหม่เค้าไม่อินนะ ทำได้ แต่ไม่อิน นี่เป็นสิ่งที่ทำให้ Energy divana ไปกับคนรุ่นใหม่ได้ดีมาก
6. มี Mindset เจ้าของธุรกิจ
คิด ทำ มองผลลัพธ์ ดั่งเจ้าของ ให้องค์กรก้าวหน้า
หลายคนอาจจะมองว่า ข้อนี้ยาก เป็นไปไม่ได้
แต่ทีมเราเป็นแบบนั้น เพราะพี่เลือกคนมาแบบนั้น
ถ้าเค้ามี Attitude ที่ว่ามาทั้งหมด
แต่เค้าไม่รู้สึก ไม่ทำ ไม่มอง ให้เป็นสิ่งที่เค้าจะต้องรับผิดชอบมัน เค้าจะไม่เห็นลูกค้าของเราเป็นลูกค้าของเค้า Output เค้าจะไม่มากับเราเลย ความสามารถเค้าจะไม่ Shine ทำงานด้วยจะไม่สนุก เพราะ Mindset ไม่ได้ละ
แต่ถ้าเค้าเห็นลูกค้าเรา = ลูกค้าเค้าด้วย เค้าจะดูแล ใส่ใจ และอยากให้แต่สิ่งที่ดีที่สุดกับลูกค้าแบบที่เราทำ ทำงานด้วยจะสนุกมากครับ.