ใคร ๆ ก็อยากเป็นคนใหม่อยากเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองให้ดีขึ้น
แต่หลายคนอาจพุ่งไปที่เรื่องใหญ่ ๆ ใช้พลังเยอะในการเปลี่ยน
เลยอาจหมดแรงกระตุ้นไวล้มเลิกได้ง่าย
แทนที่จะเริ่มจากเรื่องยาก ๆ เราควรเริ่มจากการปรับนิสัยเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวัน
แล้วเราอาจจะประหลาดใจว่า แค่ปรับนิสัยเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างต่อเนื่องจะส่งผลให้ชีวิตเราดีขึ้นในระยะยาวและยังกระตุ้นให้เรามีพลังเปลี่ยนเรื่องใหญ่ ๆ ได้
ใน 9 นิสัยเล็ก ๆ น้อย ๆ จะมีอะไรบ้างไปดูกันครับ
สรุปโดย #AGENDA
1. อย่าตอบกลับแบบใจร้อน
หลายครั้งเราพลาดเพราะรีบตอบออกไปแบบไม่ได้คิดไม่ว่าจะตอบคำถาม พิมพ์ตอบในแชทตอบคำขอร้อง ตอบรับโอกาสหรือแม้แต่การแสดงออกต่อประเด็นหนึ่ง ๆ ที่มีคนพูดขึ้นมาให้รับรู้และใช้เวลาพิจารณาท่าทีบริบทก่อนที่จะตอบไป
2. ทำงานให้เสร็จ ตอนที่ไม่อยากจะทำ
เคยไหม บอกตัวเองว่าอีกห้านาทีจะอาบน้ำสรุปปาไปสามชั่วโมงมัวแต่นอนเล่นโทรศัพท์เลยจบที่นอนดึกตื่นสายเหมือนเเดิม
ดังนั้นต่อไปพอคิดปุ๊ปให้ทำปั๊ปอย่าละไปสนใจอย่างอื่นแล้วต่อไปเราจะเริ่มชินเริ่มทำได้เองอัตโนมัติ.ลองดูค่ะ เช่น เข้าครัวเห็นจานเปื้อนก็ล้างเลย ทำให้แม่ประหลาดใจดู
3. อยู่ห่าง ‘โซเชียล’ บ้างในบางวัน
บางทีเราไม่ได้เล่นโซเชียลเพื่อดูสิ่งที่สำคัญกับเราหรือสิ่งที่เราสนใจจริงๆแต่เป็นเพราะติดโลกออนไลน์ กลัวตกเทรนด์มีข่าวอะไรฉันต้องรู้ ตามติดชีวิตคนอื่น กลายเป็นว่าเรารับเรื่องที่ไม่ได้มีสาระมาล้นสมอง
ให้ลองกำหนดวันที่ไม่เข้าโซเชียลเลยอาจจะเริ่มจากเดือนละหนึ่งวันเป็นการพักตัวเอง ออกมาอยู่ในโลกออฟไลน์บ้างจิตใจเราจะสงบขึ้น
4. เตรียมของวันพรุ่งนี้ตั้งแต่คืนนี้
ก่อนนอนให้เตรียมของที่จะใช้ในวันพรุ่งนี้ไว้เลยเช่น จัดกระเป๋า เตรียมชุดที่จะใส่ เช็กอุปกรณ์ต่างๆการเตรียมตัวเป็นเหมือนสัญญาณให้ตัวเองว่าเราจัดการวันนี้เรียบร้อยแล้วและรู้แล้วว่าพรุ่งนี้ต้องทำอะไรพอตื่นมาเราจะรู้สึกมีพลังพร้อมทำสิ่งต่างๆ
5. กินอย่างมีสติ
เดี๋ยวนี้มีน้อยคนที่ไม่เล่นมือถือตอนกินข้าวบางคนมือข้างนึงตักข้าว อีกมือไถทวิตเตอร์เหมือนกับอยู่ในความวุ่นวายรีบเร่งตลอดไม่ได้ใช้เวลาพักเพื่อพักจริงๆการที่เราไม่โฟกัสกับการกิน รีบกินไวๆจะทำให้เคี้ยวไม่ละเอียด กินมากกว่าปกติอาหารย่อยยากอีก
เราจึงควรใช้เวลากับการกิน กินแบบมีสติเคี้ยวช้าๆ ลิ้มรสชาติอาหาร ไม่ทำอย่างอื่นไปด้วยจะทำให้เราอิ่มในปริมาณที่พอเหมาะพอควรดีต่อสุขภาพ สมองได้พักไม่วุ่นวาย
6. ลิมิตเวลาทำงาน.นอกจากจัดลำดับงานที่จะทำก่อนทำหลังแล้วลองกำหนดเวลาที่จะใช้ทำงานแต่ละชิ้นตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะทำกี่นาทีฝึกจับเวลา
เทคนิคที่แนะนำคือ
– Pomodoro: แบ่งเวลาทำงาน 25 นาทีสลับกับพัก 5 นาที
– Time boxing: วางแผนงานที่ต้องทำไว้ล่วงหน้า โดยเขียนลงในตารางปฎิทิน
7. เอาโทรศัพท์ไว้ไกลตัว
บางทีไม่มีอีเมล์ ข้อความเข้าหรอกแต่พอเห็นโทรศัพท์ก็อยากจับอยากเปิดดู ยิ่งเดี๋ยวนี้โทรศัพท์เหมือนเป็นอวัยวะที่ 33 ของเราไปแล้วพกติดตัว ใช้ทุกวันทำให้โทรศัพท์กลายเป็นสิ่งที่ทำให้เราเสียสมาธิจากสิ่งที่ทำได้ง่ายมากๆ
เคล็ดลับคือเอาไปไว้ที่อื่น ไปวางไว้อีกห้องให้เราไม่เห็นเพื่อให้จดจ่อกับสิ่งตรงหน้าได้มากขึ้น
ถ้าบอกว่าต้องไว้หัวเตียงเพราะตั้งปลุกให้เปลี่ยนไปใช้นาฬิกาปลุกแอนะล็อกแทน
8. อยากได้อะไรให้รอก่อน
ตกใจทำไมต้นเดือนเงินหมดแล้วลองย้อนดูการใช้จ่ายของตัวเองก่อนเวลาไปชอปปิงเจอของลดราคาได้เผลอเหมามาหมดหรือเปล่า
เวลาเห็นของแล้วรู้สึกอยากได้อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจซื้อลองกลับไปคิดก่อนสักสองสามวัน เราอาจเปลี่ยนใจก็ได้โดยเฉพาะพวกของลดราคาตัวดึงดูดใจถ้าไปเจอให้ถามตัวเองว่าถ้าสมมติเขาขายในราคาเต็มเราจะยังซื้อไหม แล้วอาจพบว่าเราไม่ได้ต้องใช้มันเลย
9. จดทุกไอเดียที่มี
ไอเดียมายาก ลืมง่าย! เพราะงั้นเวลานึกอะไรได้ คิดอะไรออกให้หาที่จดมันลงไป เป็นสมุดหรือจดในไอแพดก็ได้เหมือนการจดบันทึกในแต่ละวันทำให้เราย้อนกลับมาดูได้ บางไอเดียที่จดไว้อาจมีประโยชน์ในอนาคต