ทำไมพ่อแม่เราถึงชอบบ่นว่าเราฟุ่มเฟือย?
ทำไมพี่ต้องซื้อกาแฟแก้วนึงเป็นร้อย?
ทำไมน้ามีคนมาชวนขายอะไรก็ทำหมด?
คำถามที่เจอบ่อยๆ เหล่านี้
รู้ไหมว่าบางทีคำตอบก็มาจากเรื่องง่ายๆ แต่คนต่างรุ่นเข้าใจกันเองย๊ากยาก
คือ “เพราะเจเนอเรชั่นเราต่างกัน” ไงล่ะ
จะต่างกันแค่ไหน
#AGENDA สรุปนิสัยทางการเงินของแต่ละเจนมาให้แล้วค่ะ
———-
👴🏼 Builder/Silent 👵🏻
เกิดช่วงปี ค.ศ. 1928 – 1945
อายุตั้งแต่ 75 – 92
“ประหยัด ไม่จำเป็นไม่ซื้อ เน้นความมั่นคง”
เริ่มทำงานหารายได้จากผลพวงทางเศรษฐกิจที่รุ่นก่อนวางไว้ จึงมีความจงรักภักดีกับนายจ้างและชาตินิยม ผู้หญิงเริ่มออกมาทำงานนอกบ้านมากขึ้น ใช้จ่ายประหยัดเพราะอยู่ในยุคสงคราม เน้นเก็บเงินในรูปแบบที่มั่นคง ไม่ซับซ้อน เช่น ออมทรัพย์ พันธบัตรรัฐบาล เป็นต้น รายได้ในปัจจุบันจึงเน้นไปที่ดอกเบี้ยและเงินปันผล รวมถึงจากลูกหลาน
———-
👴🏼 Babyboomer 🧓🏻
เกิดช่วงปี ค.ศ. 1946-1964 (หลังสงครามโลกครั้งที่ 2)
อายุตั้งแต่ 56-74
“รายได้จากจ๊อบเดี่ยว เน้นประหยัดอดออม ลงทุนในที่ดินและทอง เสี่ยงโชคเป็นปกติ”
คนกลุ่มนี้เกิดและเติบโตในยุคที่รายได้หลักมาจากงานเดียว
รายได้เสริมมีบ้างเล็กน้อย สภาพแวดล้อมยากลำบากหลังสงคราม
Babyboomer จึงเน้นการใช้จ่ายอย่างประหยัด
หากใช้จ่ายเกินจำเป็นเรียกว่า “ฟุ่มเฟือย” เน้นเก็บหอมรอมริบไว้ใช้ในวันหน้า ซึ่งก็มักเน้นการฝากไว้กับธนาคารเพราะเชื่อว่ามั่นคง รัฐบาลเป็นประกัน
สอดคล้องกับการเลือกลงทุน โดยเฉพาะกับสินทรัพย์ที่ “เชื่อว่า” จะไม่เสื่อมค่า ราคาขึ้นไปเรื่อยๆ และจะอยู่กับตนเองไปได้นานๆ เช่นที่ดิน หรือทองคำ
นิยมใช้เงินกับการเสี่ยงโชคเป็นปกติ มากบ้าง น้อยบ้าง เพราะถ้าประเมินรายได้จากอาชีพหลักที่สุจริต โอกาส “รวย” ก็ยากมาก จึงต้องอาศัยการเสี่ยงโชคเท่านั้นที่จะทำให้รวยขึ้น
———-
.
👨🏻👨🏻Gen X👨🏼👩🏻🦱
เกิดช่วงปี ค.ศ. 1965-1979
อายุตั้งแต่ 40-55
“รายได้จากทั้งจ๊อบหลักและจ๊อบรอง จ่ายเต็มที่กับการศึกษาและสถานะ ลงทุนแบบหวังผลมากกว่าออม ชอบพนันมากกว่าเสี่ยงโชค”
Gen X เกิดและเติบโตในยุคที่พ่อแม่ใช้จ่ายอย่างประหยัด ได้รับการศึกษาดี
มักมีงานเสริมเป็นปกติจึงมีรายได้หลักจากจ๊อบหลัก และรายได้เสริมจากจ๊อบรอง
Gen นี้จะใช้เงินเต็มที่กับการศึกษาและสินค้า/บริการที่ส่งเสริมสถานะทางสังคม แต่ประหยัดเต็มที่กับหลายๆเรื่องที่ไม่ต้องบอกใคร หรือโชว์ใคร นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการฝากเงินกับธนาคารเพื่อการออม
แต่แบ่งเงินไปลงทุนในด้านอื่นๆมากขึ้น ทั้งในอสังหาริมทรัพย์ เช่น ที่ดิน อาคาร รวมทั้งทองคำ หุ้น และธุรกิจส่วนตัว
Gen X ยังคงให้ความสำคัญกับการสะสมความมั่งคั่งเพื่อใช้หลังเกษียณแบบเดียวกับ Baby Boomer ชอบการพนันมากกว่าการเสี่ยงโชคเพราะคิดว่า เสี่ยงโชคเป็นเรื่องดวงล้วนๆ แต่เชื่อว่าการพนันต้องอาศัยการวิเคราะห์และคาดการณ์ที่ใช้ความรู้จึงมั่นใจในโอกาสที่จะชนะและได้เงินมากกว่า
———-
👱🏻♂️🧑🏻🦱👱🏻Gen Y👱🏻👱🏻👱🏻♀️
เกิดช่วงปี ค.ศ. 1980-1996
อายุตั้งแต่ 24-39
“รายได้จากทั้งจ๊อบหลัก จ๊อบเสริม และจ๊อบเฉพาะกิจ จ่ายเต็มที่กับสิ่งที่ชอบและเป็นความใฝ่ฝัน สนใจลงทุนในความเสี่ยงสูง พนันและเสี่ยงโชคแบบขำๆ”
เกิดและเติบโตในยุคที่พ่อแม่มีรายได้มากกว่าหนึ่งทาง
พร้อมกับพ่อแม่ที่ทุ่มเทให้เต็มที่กับการดูแล โดยเฉพาะการศึกษา
มีรายได้จากหลายทางทั้งจ๊อบหลัก จ๊อบเสริม และจ๊อบเฉพาะกิจที่สร้างรายได้ตามโอกาสและสถานการณ์
Gen Y โตมากับการเปลี่ยนแปลงก้าวกระโดดของเทคโนโลยี จึงปรับตัวได้ไว
ถ้าเห็นช่องทางที่ทำเงินได้ (แต่ไม่ผิดกฎหมาย) เป็นต้องลอง สุ่มเสี่ยงแต่รายได้น่าสนใจก็ลองดูก่อน เผื่อเวิร์คก็ทำต่อ ไม่เวิร์คก็เลิกไป หลายครั้งพบว่ารายได้รวมจากจ๊อบอื่นๆ มากกว่าจ๊อบหลัก (หรือจ๊อบหลักจุกจิกมาก) ก็เลิกทำจ๊อบหลักไป
Gen นี้ใช้จ่ายเยอะกับเรื่องที่เป็น passion สิ่งที่ชอบและใฝ่ฝันมากกว่าเพื่อการศึกษาหรือสถานะทางสังคม
ไม่ห่วงมากกับการสะสมเงินเพื่อความมั่นคงเกษียณ เพราะเริ่มวางแผนทางการเงินค่อนข้างเร็ว โดยมีเป้าหมายให้มีเงินใช้อย่างสม่ำเสมอได้ตลอดตั้งแต่ปัจจุบัน มีไดนามิคทางการเงินสูงคือหาได้มาก็นำไปใช้
แต่บนพื้นฐานที่มั่นใจว่าจะยังคงมีรายได้ต่อเนื่องมาเรื่อยๆ
กล้าลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงๆ ทั้งในหุ้น ในสตาร์ทอัพที่ทำเองและในสตาร์อัพอื่นๆ ที่ดูแล้วน่าสนใจ รวมทั้งในอสังหาริมทรัพย์ที่คาดว่าจะซื้อขายเปลี่ยนมือได้ง่ายเช่นใบจองคอนโด
แต่ไม่เน้นลงทุนอสังหาริมทรัพย์ระยะยาว ไม่ใส่ใจในเรื่องพนันและเสี่ยงโชคมากนัก ทำไปแบบขำๆ ได้เงินก็ดี ไม่ได้ก็ช่างมัน
———-
👦🏻 Gen Z 👩🏻
เกิดช่วงปี ค.ศ. 1997 – 2012
อายุตั้งแต่ 8 – 23 ปี
ออมเร็ว ลงทุนไว
จากการศึกษาของ Wunderman Thompson Intelligence ระบุว่า Gen Z คือกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีนิยามถึงความสำเร็จว่า “ดี” ไม่เท่ากับคำว่า “รวย” พวกเขาไม่ได้ใส่ใจแต่การทำลายสถิติรายได้ ขยายธุรกิจไม่หยุดยั้งแบบโลกทุนนิยมรุ่นเก่าอีกต่อไป แต่ต้องการเห็นโลกดีขึ้นไปพร้อมๆ กันด้วย
และด้วยสภาพแวดล้อมที่เพียบพร้อมด้วยอินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยี เอื้อให้คน Gen Z รู้จักการออม ศึกษาและเริ่มลงทุนได้ไวกว่า คนรุ่นนี้จึงรู้จักและมุ่งหา Passive Income เข้าใจวิธีหารายได้จาก online และปรับตัวกับอาชีพแบบ Freelance/Part-time ได้ดี ในขณะเดียวกันก็การออมเงินผ่านการลงทุนในหุ้น กองทุน และผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่นๆ
เนื่องจากยังอยู่ในวัยเรียนเป็นส่วนใหญ่ ค่าใช้จ่ายหลังของวัยนี้จึงเน้นไปที่อุปกรณ์การเรียน เสื้อผ้า/รองเท้า และ Application
ที่มา:
– สรุปนิสัยทาง “การเงิน” แต่ละเจนต่างกันอย่างไร? โดย รศ.ดร.พิภพ อุดร
– Wunderman Thompson Intelligence
– pewresearch, prnewswire, evokad, visualcapitalist, sheerid, marketingoops