ทักษิณ ชินวัตร ฮีโร่ หรือ ผีร้าย อดีตนายกของไทย…ที่ใครบางคนไม่ Move On

Highlight

นายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 23 ของประเทศไทย เส้นทางชีวิตทรหดจากลูกพ่อค้า ตำรวจ นักธุรกิจ กระทั่งก้าวสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และวิบากกรรมจนต้องหลี้ภัยการเมืองไปต่างประเทศ จะชอบหรือไม่ชอบ ? คงไม่อาจปฏิเสธได้ว่าผู้ชายที่ชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” เป็นบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์การเมืองไทย แม้สิ้นตำแหน่งทางการเมืองไปตั้งแต่รัฐประหาร 2549 แต่ชื่อของ “ทักษิณ” ยังคงทรงอิทธิผลอยู่ในแวดวงการเมืองไทยต่อทั้งฝ่ายอนุรักษ์นิยมและฝ่ายก้าวหน้าเสมอมา 

นายทักษิณ ชินวัตร ลูกชายของนายบุญเลิศ ชินวัตร แห่งเมืองสันกำแพง เชียงใหม่ อดีต ส.ส.เชียงใหม่ ยุคจอมพลถนอม กิติขจร เรียนจบที่โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย และสอบเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 10 (ได้ชื่อ “แม้ว” จากที่นี่ ที่เรียกกันในกลุ่มเพื่อน) และโรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่นที่ 26 หลังจากนั้นได้ทุน ก.พ. ไปเรียนต่อปริญญาโท สาขากระบวนการยุติธรรมที่มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเคนทักกี สหรัฐอเมริกา จบปริญญาเอก สาขาเดียวกันที่มหาวิทยาลัยแซมฮิวสตันสเตต เมื่อปี 2521

บทบาทพ่อค้าของทักษิณผ่านมาหลายธุรกิจมีทั้ง “เจ๊ง” และ “เจ๋ง” ปน ๆ กันไป เช่น ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจปล่อยเช่าคอมพิวเตอร์ให้หน่วยงานรัฐ แต่ที่โดดเด่น คือ ธุรกิจโทรคมนาคม เช่น การก่อตั้งบริษัท แอดวานซ์ อินโฟ เซอร์วิส จำกัด (AIS) เกิดเป็นการรวมตัวของธุรกิจในเครือเป็น “ชินคอร์เปอเรชัน” 

นักธุรกิจไฟแรงต้องตาโดนใจพลตรีจำลอง ศรีเมือง หัวหน้าพรรคพลังธรรมจึงชักชวนเข้าสู่วงการการเมืองรับตำแหน่ง “รมต.ต่างประเทศ” สมัยนายกฯ ชวน หลีกภัย พ.ศ. 2537 ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคพลังธรรม ปี 2538 ตามสไตล์การเมืองไทยมีความขัดแย้งในพรรคและพรรคร่วมเป็นอันต้องลาออก ปี 2541 ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย “คิดใหม่ ทำใหม่ เพื่อไทยทุกคน” และชนะเลือกตั้ง ปี 2544 ได้ ส.ส. 248 ที่นั่ง ก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 23 ของประเทศไทย

งานบริหารสมัยแรก โจทย์หินของนายกฯ ทักษิณ คือ การฟื้นคืนเศรษฐกิจที่บอบซ้ำจากวิกฤตต้มยำกุ้ง ปี 2540 การแก้ทางด้วยนโยบาย ‘จากรากหญ้าสู่รากแก้ว’ ฟื้นฟูเศรษฐกิจจากล่างขึ้นบน เกิดเป็นโครงการในตำนานอย่าง OTOP ‘หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์’ ตั้งกองทุนหมู่บ้านละ 1 ล้านบาท พักชำระหนี้เกษตรกร ธนาคารวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ทำให้ปากท้องของพี่น้องฐานรากเข้มแข็งจนเศรษฐกิจภาพรวมทยอยฟื้นตัวขึ้น ส่วนด้านสังคมก็มีผลงาน เช่น การปราบปรามยาเสพติด หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (30 บาทรักษาทุกโรค) 

อย่างไรก็ดี มีคำครหาเรื่องการทุจริต การแทรกแซงกองทัพ และเอื้อประโยชน์พวกพ้องอยู่เนือง ๆ ช่วงปลายสมัยแรกรัฐบาลเผชิญบททดสอบหนัก เช่น สึนามิ ปี 2547 ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ กระแสความต่อต้านความสำเร็จของพรรคไทยรักไทยจึงค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นอย่างเงียบ ๆ

ผลงานที่น่าพอใจเพียงพอที่จะส่ง “ไทยรักไทย” ชนะแบบ “แลนด์สไลด์” ในการเลือกตั้ง ปี 2548 เป็นสมัยที่สองโดยเป็นพรรคการเมืองเดียวในรัฐบาลซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทย ผลงานที่เกิดช่วงนี้ เช่น การลดหนี้สาธารณะจาก 57% เหลือ 41% เจ้าภาพจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี และการก่อสร้างแล้วเสร็จของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ การเป็นรัฐบาลพรรคเดียวที่ (ดูเหมือน) เข้มแข็ง ทำให้ฝ่ายค้านตรวจสอบการทำงานลำบาก เกิดคำศัทพ์ทางการเมืองใหม่ที่ว่า “เผด็จการรัฐสภา” เมื่อบวกกับความขัดแย้งภายในพรรค เริ่มมีรูรั่วจากรอยร้าวให้ฝ่ายต่อต้านเจาะโจมตี ม็อบพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นำโดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล ออกมาชุมนุมปราศรัยเพื่อขับไล่ 

ความตึงเครียดทางการเมืองทำให้ทักษิณประกาศยุบสภาฯ วันที่ 24 ก.พ. 2549 นำไปสู่การเลือกตั้งใหม่ ทว่าพรรคฝ่ายค้าน ได้แก่ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทย พรรคมหาชน ร่วมกันไม่ส่งผู้สมัครทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ ท้ายที่สุด วันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 ก่อนที่จะมีการจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่ตามคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบกทำการรัฐประหารในนาม คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) สิ้นสุดการบริหารของนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ระยะเวลาสองสมัยรวม 5 ปี 222 วัน 

ความสำเร็จในอดีตไม่ใช่เครื่องการันตีความผาสุกในอนาคต แม้จะหลุดจากอำนาจทางการเมือง แต่วิบากกรรมยังตามติด ทักษิณถูกตรวจสอบย้อนหลังจากคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ที่ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) คณะรัฐประหาร ถูกอายัดทรัพย์สิน 76,000 ล้านบาท ฐานร่ำรวยผิดปกติ และยังมีคดีติดตัวตามเป็นพรวน เช่น คดีทุจริตการจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก (หมดอายุความแล้ว) คดีหวบบนดิน (จำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา) คดี Exim Bank อนุมัติเงินกู้สินเชื่อ 4,000 ล้านบาทแก่รัฐบาลสหภาพพม่า (จำคุก 3 ปี) คดีซุกหุ้น (ศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้ทักษิณพ้นผิด) คดีขายหุ้น ชิน คอร์ปอเรชั่น (จำคุก 5 ปี) หลายคดีเป็นข้อมูลที่ถูกนำมาโจมตีตั้งแต่ช่วงม็อบพันธมิตรลากยาวมาจนถึงปัจจุบันว่า “ทักษิณเป็นอาชญกรทางเมืองที่รัฐไทยต้องการคนหนึ่ง”

ช่วงการรัฐประหาร ปี 2549 ทักษิณเดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่ต่างประเทศ และไม่ได้เดินทางกลับมาในด้วยเหตุผลความปลอดภัย ก่อนกลับมาอีกครั้ง 28 ก.พ. 2551 เยอมรับการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เกิดซีน “ทักษิณกราบแผ่นดิน” ในวันนั้น การต่อสู้พิสูจน์ความบริสุทธิ์กินเวลาหลายเดือน มีการวางหลักทรัพย์ค้ำประกัน ประกาศไม่ยุ่งเกี่ยวทางการเมือง ขณะนั้นนายสมัคร สุนทรเวช พรรคไทยรักไทยเป็นนายกฯ จึงมีกระแสเรื่องความสนิทสนมกับฝ่ายรัฐบาล ก่อนจะขออนุญาตศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เดินทางออกนอกประเทศเพื่อไปชมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ที่ปักกิ่ง ประเทศจีน วันที่ 31 ก.ค. – 10 ส.ค. 2551 หลังจากนั้นก็ไม่ได้กลับมาอีกเลย

แม้ตัวจะไม่ได้อยู่ไทย “ผีทักษิณ” ยังคงหลอกหลอนฝ่ายตรงข้าม ไม่เคยลบเลือนไปจากหน้าฉากการเมือง หลังพรรคไทยรักไทยถูกยุบพรรคไปวันที่ 30 พ.ค. 2550 คนของพรรคย้ายไปพรรคพลังประชาชน ก่อนศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคจากฐานละเมิดกฎหมายเลือกตั้ง (2 ธ.ค. 2551) คนสนิทยังเดินหน้าการเมืองต่อที่การก่อตั้ง “พรรคเพื่อไทย” (20 ก.ย. 2550) ทุกการเคลื่อนไหวถูกมองว่าเพื่อสร้างระบอบทักษิณให้คนในเครือข่ายตระกูลชินวัตรยึดครองอำนาจในการเมืองไทย ชื่อ “ทักษิณ” ถูกมองเป็นเงาตามตัวพรรคเพื่อไทย นามสกุล “ชินวัตร” มีอิทธิพลทางความคิดต่อนักการเมือง (พรรคแดง) แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และคนที่เคยพอใจการทำงานตั้งแต่รัฐบาลไทยรักไทย

การเคลื่อนไหวขณะพำนักต่างประเทศสะเทือนการเมืองอยู่เป็นระยะ ทั้งการแสดงความเห็นทางการเมืองหรือการทำหน้าที่เป็น Speaker ตามแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Club House กลุ่ม CARE มักตกเป็นประเด็นทางการเมืองในประเทศ ความกังวลและความเกลียดกลัวจากฝ่ายตรงข้าม ยังไม่มีวี่แววว่าจะลดลง ตราหน้าว่าอาชญากร คนโกง ทุกครั้งที่มีประเด็นเรื่องทักษิณกลับบ้าน มักจะเป็นประเด็นว่าพรรคเพื่อไทยทำงานเพื่อบางคนมากกว่าประชาชน รับใช้คนไกล และปลุกกระแสความไม่พอใจเสมอ ๆ 

ในขณะที่ฝ่ายตรงข้ามมองว่าเป็นผีร้าย ประชาชนบางส่วนที่ยังมีความนิยมต่อตัวบุคคลมองว่า “ทักษิณเป็นนายกที่ดีที่สุด” หรือฮีโร่ ด้วยผลงานการทำงานที่ตอบโจทย์การแก้ปัญหาปากท้อง ประชาชนอยู่ดีกินดี เศรษฐกิจมีความเข้มแข็ง การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ การปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง การปลดหนี้ไอเอ็มเอฟ โครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ฯลฯ แม้ผ่านมาเกือบ 20 ปี คนในยุคนั้นยังคงคิดถึงภาพลักษณ์ของประเทศไทยที่มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนอย่างแท้จริง ประเทศไทยเป็นที่ยอมรับในเวทีระดับโลก

เหนือความขัดแย้งและเกมการเมือง ทักษิณเป็นหนึ่งนักการเมืองที่ประสบความสำเร็จที่สุดในการสร้างความนิยมต่อประชาชน พิสูจน์ด้วยผลงานนโยบายที่จับต้องได้ เกิดผลลัพธ์เป็นรูปธรรม  (แม้จะถูกมองว่าเป็นประชานิยม) บางนโยบายสำคัญของทักษิณสร้างความยั่งยืนแก่คุณภาพชีวิตของประชาชนลากยาวมาถึงปัจจุบัน เช่น 

  • หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า “30 บาท รักษาทุกโรค” ทำให้คนไทยเข้าถึงสิทธิการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพ และยังคงขับเคลื่อน-พัฒนามาจนทุกวันนี้
  • ความสำเร็จของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทักษิณมีส่วนผลักดันให้สำเร็จในที่สุดส่งผลให้ไทยมีสนามบินระหว่างประเทศขนาดใหญ่ที่พร้อมรองรับนักท่องเที่ยว
  • การปลดหนี้ไอเอ็มเอฟ ลดภาระหนี้ที่ไทยกู้มาประคองเศรษฐกิจช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง สามารถปิดหนี้ล่วงหน้า 2 ปี หมดพันธกรณีที่มีไว้ต่อกองทุนการเงินระหว่างประเทศ
  • พิธีฉลองสิริราชสมบัติ 60 ปี ในหลวง ร.9 รัฐบาลเชิญทรงเป็นประมุขจำนวน 25 ประเทศจากทั้งสิ้น 29 ประเทศทั่วโลก จัดการงานพิธีเพื่อ ประกาศความยิ่งใหญ่ของสถาบันกษัตริย์ไทยเป็นที่ฮือฮาจัดเป็นอีเวนต์ที่มีความสำคัญระดับโลก

ปัจจุบัน “ทักษิณ” ยังคงใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ หลัก ๆ คือ ประเทศดูไบ ประกอบธุรกิจส่วนตัวข้อมูลจาก Forbes ระบุว่าอดีตนายกรัฐมนตรี มีทรัพย์สินรวมมูลค่า 2,100 ล้านดอลลาร์ และถูกให้เป็นมหาเศรษฐีในอันดับที่ 1,434 ของโลก ภาพใต้ความร่ำรวยที่น่าอิจฉา ยังคงมีปมเรื่องการกลับบ้าน (กลับไทย) ในรอบ 17 ปีมีวาทะกรรมว่าจะกลับบ้านมาแล้ว 18 ครั้ง และล่าสุด (26 ก.ค. 66) คุณแพทองธาร “อุ๋งอิ๋ง” เผยว่าคาด #ทักษิณกลับไทยวันที่ 10 ส.ค. 2566 นี้ที่สนามบินดอนเมือง พร้อมยอมรับการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม กลับมาอยู่พร้อมหน้ากับครอบครัวอีกครั้ง “เลี้ยงหลาน” แต่จะได้กลับจริง ๆ อีกหรือไม่ คงต้องตามกันต่อไป

คนหนึ่งคนมีหลายหัวโขนและถูกตีความตามมุมมองของแต่ละคนต่างกันไป ทักษิณคือใคร ผีการเมือง รัฐบุรุษ วีรบุรุษ ลูกพ่อค้า นักธุรกิจ นักการเมือง อดีตนายกฯ คนโกง อาชญกร คงไม่สามารถตอบแทนใจของใครได้ ท่ามกลางความขัดแย้งของการเมืองไทย เราหวังว่าทุกอย่าง ทุกปม ทุกเหตุการณ์ที่เริ่มต้นมาตั้งแต่รัฐประหาร 2549 จะคลี่คลายไปอย่างลงตัว อาจต้องถึงเวลาแล้วหรือไม่? ที่การเมืองไทยจะก้าวข้าม “ทักษิณ” move on กันเสียที โดยมีผลประโยชน์ของประชาชนเป็นตัวแปรหลักในสมการการเมืองไทยเพื่อให้ประเทศก้าวหน้า ก้าวข้ามความขัดแย้งสู่การตอกเสาเข็มประชาธิปไตยไทยให้มั่นคงเสียที

ทักษิณไม่ได้ซื้อเพจนี้ ในฐานะเพื่อนมนุษย์ ขออนุญาต Happy Brithday Mr.Tony Woodsome ครับ

ที่มา : 101.world, Thairath Plus, สถาบันพระปกเกล้า, สยามรัฐ, PPTV Online

Popular Topics