สิ่งที่เกิดขึ้นในปี 2020 ทั้งวิกฤตไวรัส Covid-19 เศรษฐกิจทั่วโลกที่ตกต่ำ เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก จนเกิดการใช้ชีวิตวิถีใหม่ที่เรียกว่า ‘New Normal’
ความเปลี่ยนแปลงระลอกใหญ่ ทำให้ธุรกิจต้องจับตามองและปรับเปลี่ยนตัวเองให้ทันกับพฤติกรรมผู้บริโภคในยุค ‘New Normal’
วันนี้ #Agenda จึงมาสรุปเทรนด์ผู้บริโภคในปีหน้าให้ดูกัน
1.Hygge Home ฮุกกะโฮม บ้านคือความสุข
ในภาษาเดนมาร์ก Hygge ฮุกกะ นิยามได้ว่า ‘ความสุขในทุกวัน’ รวมความปลอดภัย สบายใจ และพึงพอใจในฉบับของตัวเอง
Covid-19 เป็นตัวเร่งที่ทำให้ ‘บ้าน’ กลายเป็น Economy ใหม่ให้เร็วขึ้น เป็นโอกาสของแบรนด์ที่จะนำตัวเองเข้าไปอยู่ใน Economy ใหม่ของลูกค้า สร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ผ่านกิจกรรมต่างๆ ด้วยถือ ‘ฮุกกะ’ เป็นสำคัญ
มีสินค้าที่ออกมาตอบโจทย์คนอยู่บ้านมากขึ้น เช่น Peloton ธุรกิจ Streaming Fitness ออกกระจกจอ LCD ที่มีคลาสออกกำลังกาย มีครูฝึกนำ live กับเพื่อนร่วมคลาสได้ เป็นการสร้าง community ใหม่ๆที่คู่แข่งเลียนแบบไม่ได้
2.Kindness Keeper ที่มาต้องโปร่งใส
พฤติกรรมผู้บริโภค ที่ชอบหาข้อมูล อ่านรีวิว ศึกษาที่มาของส่วนผสม รวมถึงกระบวนการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำ นำไปสู่การตัดสินใจเลือกบริโภคที่จะเลือกบริโภคแบรนด์ที่ให้ความสำคัญประเด็นสังคม ความเท่าเทียมและความหลากหลาย เช่น คนพิการ สีผิว เพศ สัญชาติ วัฒนธรรม
Crayola ออกสีเทียนชุด Color of the world เป็นสีเทียนโทนสีเนื้อ 24 ที่บ่งบอกว่า สีเนื้อไม่ได้มีแค่สีเดียว สอนให้เด็กรู้จักสีผิวหลากหลายโทน สร้างความเข้าใจความหลากหลายทางเชื้อชาติ
3.WFHF – Work From Home Forever ทำงานที่บ้านตลอดไป
บริษัทชั้นนำทั่วโลกอย่าง Facebook,Spotify,Google,Twitter มีนโยบายให้พนักงาน WFH ได้ถึงสิ้นปี 2020 และมีแนวคิดให้ WFH ‘Forever’ ในอนาคต
แอพพลิเคชั่น Videocall ยอดฮิตในช่วง Covid-19 อย่าง Zoom ทำกำไรในไตรมาสที่ผ่านมาถึง 185.7 ล้านเหรียญ หรือราวๆ 5,571 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าปีที่แล้วถึง 3,300%
บริษัท WeTransfer ทำออฟฟิศให้กลายเป็น Simcity มีการประชุมประจำวันแบบโลกเสมือนโดยใช้ Avatar สร้างความสัมพันธ์ให้คนในออฟฟิศได้เป็นอย่างดี
4.Global to Glocal จากโลกสู่ชุมชน
แนวคิด ‘Reverse Globalization’ เป็นการมองโลกกลับมาสู่ชุมชน ในหลายประเทศหันมาสนับสนุนธุรกิจ ’ท้องถิ่น’ มากขึ้น จากวิกฤต Covid-19 เช่น Local Food Nodes จากสวีเดน แพลตฟอร์มที่เชื่อมโยง ‘ผู้ผลิต’ กับ ‘ผู้บริโภค’ ในท้องถิ่น ให้เลือกซื้อสินค้าจากธุรกิจท้องถิ่น ด้วยแอพพลิเคชั่น และสามารถขนส่งหรือนัดรับตามจุดที่กำหนดได้
‘Nextdoor’ โซเชียลเน็ตเวิร์กที่ใช้ในชุมชนท้องถิ่น ที่ไว้พูดคุย แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกับเพื่อนบ้านในละแวกเดียวกัน และ Facebook เองก็กำลังทดลอง ‘Neighborhoods’ ฟีเจอร์ที่เน้นเชื่อมต่อกับผู้คนในท้องถิ่น และใช้ข้อมูลตำแหน่งที่อยู่ เสนอโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้มากขึ้น
5.Self-Partnered ไม่ได้โสด แค่คบตัวเอง
เทรนด์การมองความโสดในปัจจุบัน Self-Partnered โสดสบาย เพราะมีตัวเองเป็นคู่ใจ
Tinder แอพพลิเคชั่นหาคู่ชื่อดัง ระบุว่า 81% ของคนโสดคิดว่า ความโสดมีประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการมีเพื่อนใหม่ ทำงานได้เต็มที่ มีเวลาดูแลตัวเองมากขึ้น เป็นการใช้ชีวิตคนเดียวที่การมีคู่ไม่สามารถให้ได้