จากธุรกิจม้ามืด สู่การเป็นยูนิคอร์นที่โตไวที่สุดในอาเซียน
เส้นทางของ “ญาดา ปิยะจอมขวัญ” และ “Ajaib” Startup ฝีมือคนไทยในอินโดนีเซีย
Ajaib (อา-ไจลบ์) เป็นธุรกิจ Startup ที่ให้บริการแพลตฟอร์มเทรดหุ้นออนไลน์ในประเทศอินโดนีเซีย เกิดจากการร่วมมือกันของ Anderson Sumarli และ ญาดา ปิยะจอมขวัญ นักธุรกิจสาวไทยที่ไปลงหลักปักฐานในต่างประเทศ
เพียงระยะ 3 ปีของของการก่อตั้ง Ajaib สามารถเติบโตจนกลายเป็นยูนิคอร์นตัวล่าสุด ด้วยดีกรี Startup ที่เติบโตเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เท่าที่เคยมีมา
#Agenda สรุปเส้นทาง ‘ญาดา’ ผู้ร่วมก่อตั้ง Ajaib หนึ่งในสตาร์ทอัพยูนิคอร์นที่โตไวที่สุดในอาเซียน
1. เลือกเส้นทางธุรกิจตั้งแต่เด็ก│ตั้งแต่เกิด-ปี 2015
เด็กหญิงญาดา ปิยะจอมขวัญ เกิดและโตในครอบครัวที่ผู้คนรอบตัวประกอบธุรกิจ และเป็นเจ้าของกิจการ สภาพแวดล้อมที่บ้านทำให้เริ่มสนใจการทำธุรกิจมาตั้งแต่เด็ก ชอบการลงมือทำเพื่อเฝ้าดูผลลัพธ์ของสิ่งต่าง ๆ ว่าจะเป็นอย่างไร
จนเมื่อเข้าสู่วัยมหาวิทยาลัยจึงได้สอบเข้าเรียนปริญญาตรีที่คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี หลักสูตรนานาชาติ (BBA) สาขาการตลาด มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีประสบการณ์ลงสนามแข่งขันทางวิชาการด้านธุรกิจ
—
2. ทำงาน Consulting ที่ McKinsey │ช่วงปี 2015
เมื่อเรียนจบปริญญาตรี จึงสมัครเข้าทำงานในสายงาน Consulting ที่ McKinsey เนื่องจากรู้ตัวว่ายังน้อยประสบการณ์ ยังไม่มีไอเดียเริ่มต้นธุรกิจชัดเจน จึงใช้โอกาสนี้เพื่อเก็บเกี่ยว พัฒนาตนเองผ่านการทำงานกับผู้บริหารเก่ง ๆ และมีโอกาสเข้าร่วมประชุมในวาระสำคัญหลายครั้งในวัยเพียง 25 ปี
—
3. เรียนต่อ MBA สแตนฟอร์ด อเมริกา │ช่วงปี 2017
3 ปีให้หลัง คุณญาดาจึงตัดสินใจลาออกและไปตามฝันการเป็นนักธุรกิจต่อ โดยการไปศึกษาต่อปริญญาโทด้านการบริหารธุรกิจ (MBA) ที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มีชื่อเสียงเรื่อง Entrepeneurship ที่สแตนฟอร์ด คุณญาดาได้เรียนรู้มุมมองใหม่ ๆ ด้านการทำธุรกิจมากมาย
—
4. หาไอเดีย Startup ของตัวเอง │ช่วงปี 2018
ช่วงที่ศึกษาอยู่ที่สหรัฐฯ คุณญาดาได้พบกับ Anderson Sumarli เพื่อนร่วมชั้น สัญชาติอินโดนิเซีย ซึ่งภายหลังได้มาร่วมมือกันค้นหาไอเดียธุรกิจ Startup ภายใต้โจทย์ที่ยิ่งใหญ่ว่า “ธุรกิจอะไรจะสร้างอิมแพคได้ในระดับภูมิภาค”
—
5. ฝึกฝีมือ – ก่อตั้ง Ajaib │ช่วงปี 2018
ปี 2018 คุณญาดาและทีมได้มีโอกาสเข้าร่วม Y Combinator โครงการบ่มเพาะ Startup ระดับ Seed Funding พัฒนาไอเดีย และตัดสินใจว่าจะเริ่มสร้าง Startup ด้วยความที่ทั้งสองคนมาจากประเทศแถบอาเซียน จึงได้เลือกประเทศในภูมิภาคดังกล่าวในการเริ่มต้นลงหลักปักฐานธุรกิจ
กับโจทย์ใหญ่ที่ว่า “ธุรกิจนั้นต้องมาแก้ปัญหาพื้นฐาน” สุดท้ายจึงลงเอยด้วย “บริการทางการเงิน” เนื่องจากเป็นสิ่งที่ทั้งสองคนมีประสบการณ์มาก่อน จนในที่สุดได้ออกมาเป็นแพลตฟอร์มบริการการลงทุน ชื่อว่า “Ajaib” ก่อตั้งเมื่อปี 2018
เจาะกลุ่มเป้าหมายคนที่เพิ่งหัดเริ่มลงทุนเป็นหลัก และเลือกพื้นที่เป็นตลาดอินโดนีเซีย เพราะคนอินโดนีเซียยังตื่นตัวเรื่องการลงทุนน้อยมาก ๆ เมื่อเทียบกับไทย และเป็นตลาดขนาดใหญ่มาก มีโอกาสทางธุรกิจ
—
6. ระดมทุน Series A │ 21 มี.ค. 2021
Ajaib มีแนวโน้มไปได้ดี จึงเข้าสู่กระบวนการขอทุนครั้งแรก series A ได้ผู้สนับสนุนการลงทุนหลัก คือ DST Global ซึ่งเป็น Venture Capital ที่สนับสนุน Robinhood Markets รวมมูลค่าทุนประมาณ 90 ล้านดอลลาร์
—
7. เงินทุน 153 ล้าน USD จาก Series B │ 21 มี.ค. 2021
การระดมทุนใน Series B ได้รับเงินลงทุน 153 ล้านดอลลาร์สหรัฐ บริษัทที่ร่วมลงทุนเพิ่มเข้ามา ได้แก่ Alpha JWC Ventures, Ribbit Capital, Horizons Ventures, Insignia Ventures และ SoftBank Ventures Asia ส่งผลให้บริษัทมีมูลค่าแตะ 1 พันล้านเหรียญ กลายเป็นสตาร์ทอัพยูนิคอร์นแห่งที่ 7 ของอินโดนีเซีย
—
8. ยูนิคอร์นตัวล่าสุดของอาเซียน │ 2021
Ajaib เป็นแพลตฟอร์มซื้อขายหลักทรัพย์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของอินโดนีเซีย มีอัตราการเติบโตเร็วมากโดยใช้เวลาเพียง 3 ปี บริษัทมีมูลค่ากว่า 33,000 ล้านบาท เป็นยูนิคอร์นฝีมือคนไทยในไปโตในต่างประเทศ และอีกหนึ่ง Startup ที่ตัวโลกกำลังจับตามอง
ที่มา : CrunchBase, Techsauce, blog.cariber.co/careerfact, Blockdit ,TheStandard, Forbesthailand